โฮโนลูลู — ในเดือนมีนาคมนี้ โรงอาหารของโรงเรียนรัฐบาลทั่วทั้งรัฐได้รับโอกาสในการเสิร์ฟไข่เขียวและข้าวผัดแฮมเป็นอาหารเช้าโดยใช้ต้นหอมที่ปลูกในท้องถิ่น
ในแต่ละวัน กรมศึกษาธิการแห่งรัฐฮาวาย (HIDOE) เสิร์ฟอาหารเช้าประมาณ 26,000 มื้อ หรือ 4.6 ล้านมื้อต่อปีการศึกษา เพื่อให้นักเรียนเริ่มต้นวันใหม่ด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการเรียน การทำงาน และการเติบโต อาหารเช้าพิเศษนี้นำเสนอเนื่องในสัปดาห์อ่านหนังสือแห่งชาติและสัปดาห์อาหารเช้าโรงเรียนแห่งชาติ ซึ่งจัดขึ้นในสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม
ต้นหอมท้องถิ่น เป็นหัวหอมพันธุ์ต่างๆ ที่มีก้านที่ชุ่มฉ่ำกว่าและมีรสชาติหอมเข้มข้นกว่า พร้อมด้วยผักโขมที่แต่งแต้มสีสันให้กับอาหารจานนี้ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Dr. Seuss คาดว่าต้นหอมท้องถิ่นน้ำหนักประมาณ 145 ปอนด์จะถูกแจกจ่ายไปทั่วรัฐเพื่อเสิร์ฟให้กับโรงเรียนที่เข้าร่วม 78 แห่ง
นักเรียนและผู้ปกครองที่โรงเรียนประถมศึกษา Moanalua หวังว่าจะได้เห็นวัตถุดิบท้องถิ่นมากขึ้นในมื้ออาหารที่โรงเรียน
เอริน นิชิโมโตะ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กล่าวว่า “ฉันคิดว่าการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นในการปรุงอาหารนั้นเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้อาหารสดมีรสชาติที่ดีขึ้น” “อาหารสดจะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์”
“การใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นจะเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ช่วยให้นักเรียนคนอื่นมีสุขภาพดีขึ้น และช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ที่จะกินผัก” จูดาห์ โลแกน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กล่าวเสริม
โครงการฟาร์มสู่โรงเรียนของแผนกมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความยั่งยืนของอาหารในฮาวายและสอดคล้องกับ พระราชบัญญัติ 175ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาสุขภาพของนักเรียนไปพร้อมกับการสนับสนุนเกษตรกรในท้องถิ่น
Kristyn Nishimoto ผู้ปกครองของโรงเรียนประถม Moanalua กล่าวว่า "กิจกรรมนี้ช่วยเหลือเกษตรกรชาวฮาวายของเราได้จริง ๆ และยังทำให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เพิ่มเติมว่าส่วนผสมอะไรบ้างที่ใส่ลงไปในอาหารของพวกเขา และยังทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นกับส่วนผสมอื่น ๆ ในท้องถิ่นอีกด้วย"
ชาริส โลแกน ผู้ปกครองอีกคนของโรงเรียนประถมโมอานาลัว เห็นด้วย “เป็นเรื่องดีที่เราสามารถสนับสนุนโรงเรียนในท้องถิ่นได้ และเด็กๆ ก็ได้วัตถุดิบสดใหม่ นั่นยอดเยี่ยมมาก”
โรงเรียนของรัฐฮาวายเป็นผู้บริโภคผลิตภัณฑ์อาหารรายใหญ่ที่สุดของรัฐ โดยให้บริการอาหารแก่นักเรียนมากกว่า 100,000 มื้อต่อวัน กรมฯ ยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ขายในพื้นที่ทั่วทั้งรัฐ เพื่อดูว่าจะสามารถขยายการผลิตผลิตภัณฑ์สดในท้องถิ่นไปยังโรงเรียนต่างๆ ได้อย่างไรในอนาคต
